🌈ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน เริ่มเป็นฝ้าจางๆ เนื่องจากอายุและการใช้ชีวิต จึงตัดสินใจทำเลเซอรค่ะ

🌈เลเซอร์ตัวที่ทำคือ fraxel แต่กลับกลายเป็นฝ้าเข้มกว่าเดิม หน้าพี่โจ๋ไหม้เป็นวงที่แก้มด้านขวา ตอนนั้นใจเสียและเสียใจมาก

🌈สอบถามที่คลินิกเดิมที่เคยทำก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้หลังจากนั้นจึงเข็ดกับการทำเลเซอร์ทุกชนิด

🌈สุดท้ายไปรักษาฝ้าที่คลินิกแห่งนึง คุณหมอให้ทานยาตัวนึงประมาณ 1 ปีฝ้าดีขึ้นมาก หายขาด แต่ต้องหยุดยาเพราะไม่ควรทานต่อเนื่อง

🌈หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 3-4 ปี อายุก็น่าจะสัก 40 ละค่ะ ฝ้ากลับมาอีกนะ. อย่างที่พี่โจ๋บอกว่าฝ้าไม่หายขาดเพราะว่าเม็ดสีบริเวณนั้นมันทำงานผิดปกติไปแล้ว

🌈ตอนนั้นเริ่มเรียนรู้วิธีการใช้สกินแคร์อย่างถูกวิธี เนื่องจากมีอาการติดสเตียรอยด์ร่วมด้วย ก็เลยพยายามรักษาตัวเองด้วยสกินแคร์ ฝ้าจางลง แต่ไม่หายขาด คนอื่นไม่เห็น แต่เราสังเกตเห็นลางๆ ค่ะ นอยอ่ะ 😅

🌈ฝ้าจะเข้มขึ้นเป็นช่วงๆโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ใกล้มีประจำเดือน หรือเวลาที่เราไปตากแดดจัดหรือแม้กระทั่งโดนความร้อน. หรือใช้สกินแคร์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินไป

หรือแม้แต่วันที่ใช้สกินแคร์มากเกินไป ก็รู้สึกว่าร้อนผิว วูบวาบและตามมาด้วยฝ้าเข้มขึ้น

🌈ประมาณปี 2563 ได้เจอกับอาหารเสริมตัวหนึ่งของญี่ปุ่นคือ Transino ดูรีวิวจากเมืองนอกเยอะมาก เห็นว่าฝ้าดีขึ้นกันมากกว่า 90%

🌈ด้วยความที่พี่โจ๋เชื่อมั่นว่าของญี่ปุ่นมักดีเสมอ 😍 ผ่าน อย ของญี่ปุ่นเรียบร้อยและได้ลองทานดูค่ะ ปรากฏว่าฝ้าจางลงมากภายในสองเดือน

🌈 แต่ก็ยังคงไม่สามารถทานต่อเนื่องได้ เพราะเภสัชที่ญี่ปุ่นให้ทาน 2 เดือน เว้น 2 เดือน ก็เลยปรับมาทานอีกสูตรหนึ่งคือสูตรสีน้ำเงิน ที่สามารถทานต่อเนื่องได้ สูตรนี้จะเห็นผลเรื่องของการลดฝ้าช้ากว่า แต่ก็ไม่ทำให้ฝ้าเข้มขึ้นและสังเกตว่าผิวเราสว่างขึ้น

🌈หลังจากสองเดือนผ่านไปพี่โจ๋ตัดสินใจทานอีกหนึ่งกล่องคืออีก 2 เดือน ฝ้าหายสนิท แล้วจึงหยุดทาน กลับไปทานสูตรสีน้ำเงินเหมือนเดิม

🌈ช่วงไหนที่ตากแดดจัดและฝ้ากลับมาก็จะกลับไปทานสูตรสีขาวประมาณหนึ่งเดือนถึงสองเดือนแล้วหยุด

🌈ปฏิบัติตัวแบบนี้มาตลอดสองปีฝ้าไม่กลับมาอีกเลย ประกอบกับการใช้สกินแคร์กลุ่มไว้เทนนิ่งคือ Brightening serum ขวดเหลืองช่วยค่ะ ได้เรื่องหน้าสว่างไม่หมองด้วย

🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀🌀

🌀🌀จากประสบการณ์ที่เป็นฝ้ามาตลอด 10 กว่าปีทำให้เรียนรู้ว่า 👉🏻

🌀 นอกจากแสงแดดและความร้อนที่เป็นปัจจัยของการเกิดฝ้าแล้ว การกินยาบางอย่าง หรือการทานฮอร์โมนก็ทำให้ฝ้าเข้มขึ้น

🌀สำหรับคนเป็นฝ้า กันแดดช่วยได้แต่น้อยมากค่ะ (แต่ยังต้องทานะคะ) ต้องบอกกันตรงตรงว่าเอาไม่อยู่ สิ่งที่ดีที่สุดคือหลบแดด ถ้าหลบไม่ได้ กางร่มหรือใส่หมวกอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องโดนแดดโดยตรง

🌀นอกจากแดดแล้วช่วงที่เป็นฝ้าควรหลีกเลี่ยงความร้อนด้วย เช่น ปิ้งย่างการทำอาหารหน้าเตาร้อนร้อนเหล่านี้ล้วนทำให้ฝ้าเข้มขึ้น

🌀เมื่อผิวเราร้อนหลังจากตากแดดจัด การประคบเย็นด้วย cold pack ช่วยลดความร้อนของผิวลงได้ มีงานวิจัยบอกว่า สามารถลดการสร้างเม็ดสีที่เพิ่มขึ้นได้ค่ะ

🌀ต้องทำใจอย่างหนึ่งว่าฝ้าไม่มีทางรักษาให้หายขาด100% เพราะเม็ดสีบริเวณนั้นมันทำงานผิดปกติไปแล้ว (Hyper pigmentation) ในบางคนที่เป็นไม่เยอะ อาจพอรักษาให้หายขาดลง 100% แต่ถ้าดูแลตัวเองไม่ดีฝ้าสามารถกลับมาได้อีกเสมอ

🌀คนที่ผิวไวต่อแดดเป็นฝ้าง่ายให้ระมัดระวังเรื่องของการใช้พวกกลุ่มผลัดเซลผิว กลุ่ม Retinoid ทั้งหลาย การขัดผิว ถ้าจะไปทะเล งดใช้เลยค่ะ หรือสกินแคร์กลุ่ม anti wrinkle ที่เวลาเราใช้แล้วรู้สึกผิวร้อนวูบวาบก็พยายามหลีกเลี่ยง

🌀จากประสบการณ์การรักษาฝ้ามาตลอกกว่า 10 ปี สกินแคร์จะช่วยได้เฉพาะฝ้าที่เกิดขึ้นที่ผิวชั้นบน เป็นฝ้าตื้นๆและพวกฝ้าแดดที่เป็นมาไม่นาน
..แต่ถ้าสะสมมาเป็นระยะเวลานานลึกจนถึงผิวชั้นหนังแท้แล้ว ต้องใช้ยาทานช่วยเท่านั้นค่ะ

🌀ความเห็นส่วนตัวของพี่โจ๋ รู้สึกว่าการทำเลเซอร์รักษาฝ้ายิ่งทำให้ฝ้าเข้มขึ้นเพราะลองมาหลายครั้งแล้ว แต่นั่นคือประสบการณ์เมื่อหลายปีก่อน
ปัจจุบันมีเลเซอร์กลุ่มกำจัดเม็ดสีรุ่นใหม่ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดี อันนี้ต้องลองปรึกษาแพทย์ดูนะคะ

🌀ให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างสม่ำเสมอ การที่ปล่อยให้ผิวเราแห้งสามารถทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้เหมือนกัน การใช้สกินแคร์กลุ่มที่เสริมสกินแบริเออร์ผิว เป็นเรื่องสำคัญมากๆค่ะ

🌀อยากให้ใจเย็นในการรักษาฝ้านะคะ ยิ่งถ้าเราใจร้อน เราจะประโคมทุกสิ่งบนโลกที่เราจะหาได้มาใช้ ซึ่งถ้าหากเราไม่รู้คุณสมบัติของส่วนผสมในสกินแคร์ที่เราประโคมลงไป จะทำให้หน้าพังไปกว่าเดิม

🌀สุดท้าย ฝ้ามากับอายุค่ะ จะมาเร็วหรือช้าแล้วแต่บุคคล หรือบางคนอาจจะไม่เจอปัญหาฝ้าเลยตลอดชีวิต ถือเป็นความโชคดีมากๆ
…แต่สำหรับคนที่เป็นฝ้าไม่ต้องกลุ้มใจไปค่ะ ถ้าดูแลอย่างถูกวิธี เราสามารถรักษาให้ฝ้าจางลง คุมเขาได้ ถึงแม้จะไม่หายขาด แต่เราก็สามารถอยู่กับเค้าไปได้อย่างมีความสุขค่า

รักนะ… พี่โจ๋