ผลัดเซลล์อย่างไรให้ผิวปัง!

ผลัดเซลล์ผิวยังไงให้ผิวปัง

เรื่องนี้คงต้องเอามาฉายซ้ำกันทุกๆปีนะคะ เนื่องจากพี่โจ๋มีลูกเพจมาใหม่เยอะขึ้นทุกปี

แล้วหลายคนมาปรึกษาปัญหาสภาพผิวด้วยการบอกว่าผิวหน้าหมองคล้ำดำกว่าตัว. แล้วก็ส่งสกินแคร์มาให้ดู..

โอ้-แม่-เจ้า!!!!

ในรูปแต่ละตัวผลัดเซลล์ผิวทั้งนั้นเลยจ้าไม่ว่าจะเป็น AHA BHA .. Retinol.. Retinoid.. peeling และอีกสารพัดที่จะผลัดผิวให้บางลง 😰

ประเด็นคือใช้พร้อมกันหมดทุกตัวอีก ด้วยความหวังว่าผิวจะขาวขึ้นอย่างไวภายในไม่กี่วัน แต่กลายเป็นมันดำยิ่งกว่าคอไปอีก

จนพี่โจ๋ต้องขอร้องว่าให้หยุดใช้ก่อน แล้วปรับ skincare routine ให้ใหม่หมด

หรือบางคนก็จะชอบถามว่าใช้ผลัดเซลล์แล้วผิวเรามันจะบางไหมพี่.. อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ของแต่ละคนนะคะว่าใช้แล้วผิวจะพังหรือผิวจะปัง 🤪

แต่จากประสบการณ์อายุเฉียด 50 ปูนนี้ ป้ายังยืนยันเหมือนเดิมค่ะ…

….ว่าการใช้ผลัดเซลล์ผิวอย่างถูกวิธีทำให้ผิวเราเป็น glass skin ได้แน่นอน!!

วันนี้พี่โจ๋ก็เลยจะขอเขียนถึงเรื่องของการใช้กลุ่มผลัดเซลล์ผิวอีกครั้ง ว่าใช้อย่างไรให้เรารู้สึกสบายผิวและเกิดประโยชน์กับผิวเรามากที่สุดนะคะ

เรามาพูดถึงสารที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งมันมีอยู่เยอะมว้ากก ชื่อที่เราคุ้นๆหูก็เช่น AHA, BHA, Azelaic, Retinoid, lactic, Glycolic , Alpha Lipoic Acid กลุ่มกรดวิตามิน A มะขาม สมุนไพรบางชนิด … ฯลฯ

❤️❤️ เราจะใช้มันอย่างไรให้ผิวปัง!!👉🏻

✅ ควรใช้เฉพาะเวลากลางคืน ย้ำ!! กลางคืนค่า และใช้กันแดดอย่างสม่ำเสมอ ช่วงไหนไปเที่ยวทะเลหรือออกแดดจัดๆ งดใช้พวกผลัดเซลล์เลยค่า

✅ไม่ใช้พวกผลัดเซลล์ผิวหรือ Direct Acid โดยตรงมากกว่า 1 ตัวในคราวเดียว

✅เริ่มจากความเข้มข้นน้อยไปมากเสมอ ..ทีนี้เราจะรู้ได้ไงว่าตัวไหนหรือความเข้มข้นแค่ไหนเหมาะกับผิวเราที่สุด อันนี้ตอบไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าผิวของแต่ละคนแข็งแรงไม่เท่ากันเนอะ

แต่อย่างแรกเลยสำหรับคนที่เริ่มใช้ใหม่ๆ ถ้าจะปลอดภัยที่สุดก็คือเริ่มต้นจากเปอร์เซ็นต์ต่ำที่สุดก่อน ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะต้องศึกษาหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหรือถามเจ้าของผลิตภัณฑ์นะคะ

✅ ความถี่ในการใช้ให้สังเกตจากผิวของเรา ว่าเรายังสบายผิวอยุ่มั้ย เราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้บ่อยเท่าที่แบรนด์แนะนำ แต่คำแนะนำของแบรนด์ ก็จะเป็นแนวทางให้เรารู้ว่าเราจะใช้ได้บ่อยมากสุดแค่ไหน
คือบางคนผิวแข็งแรงมากใช้ทุกวันตามคำแนะนำ หรือพร้อมกันหลายตัวไม่มีปัญหาอะไรเลย
แต่ถ้าเราใช้ตามแล้วไม่สบายผิว ก็ต้องลดความถี่ลง
ควรใช้วันเว้นวันหรือสองวัน หรือไม่ควรใช้พร้อมกันหลายตัวในคราวเดียว

✅ บางทีผลิตภัณฑ์นั้นอาจจะไม่ได้แจ้งว่าเป็น direct acid โดยตรง แต่ว่าก็มีส่วนผสมของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวผสมอยู่โดยที่เราไม่รู้ (มักจะอยุ่ในพวกครีมที่เคลมว่าลดริ้วรอย หน้ากระจ่างใส ไนทครีมบางตัว)

ซึ่งถ้าคนที่ไม่รู้แล้วเป็นคนชอบใช้ครีมเยอะเยอะหลายหลายตัว มันก็สร้างความระคายเคืองให้ผิวหน้าเราได้

ซึ่งพี่โจ๋เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน 😣 และเชื่อว่าหลายคนก็ต้องเคยเป็นด้วย

ครีมพวกนี้พอใช้ไปนานๆ เราจะเริ่มรู้สึกแสบผิว ระคายเคืองง่าย อยู่ดีๆก้สิวบุกเพราะผิวเริ่มบางแพ้ง่าย แล้วก็เกิดอาการงงว่าเอ๊ะเกิดอะไรขึ้นกับผิวเรา ครีมก้ไม่ได้เปลี่ยนใหม่นี่หว่า ซึ่งตรงจุดนี้สำหรับคนที่ชอบใช้ครีมหลายหลายตัวต้องศึกษาคุณสมบัติของส่วนผสมดีดีนะคะ

✅ ผลัดเซลล์ผิวเสียชั้นบนทิ้งแล้ว ต้องป้องกันและบำรุงเซลล์ผิวใหม่ที่เกิดขึ้นมาด้วยนะคะ (ข้อนี้พี่โจ๋เน้นมากๆๆๆ)
ไม่อย่างนั้นผิวเราก็จะดีอยู่แป๊บเดียวแล้วก็จะเสียเหมือนเดิม
ก้ต้องมาคอยผลัดทิ้งบ่อยๆ เพื่อให้ผิวใสขึ้น เป็นวงจรแบบนี้บ่อยๆจนผิวบางเร็วเกิน กลายเป็นผิวแพ้ง่ายอี๊ก

✅ การใช้สกินแคร์ที่เป็นลักษณะเวชสำอางที่มีความเข้มข้นสูง หลักสำคัญคือสังเกตผิวตัวเองเป็นหลักค่ะ
เพราะผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผิวเราต้องรู้สึกสบาย นั่นคือชั้นผิวเรายังแข็งแรง ไม่บาง.
ถ้าเราใช้แล้วผิวดีขึ้น. ในขณะที่ยังรู้สึกสบายผิวไปเรื่อยเรื่อย ผิวไม่แดงง่าย ไม่ระคายเคืองง่าย ไม่แสบ แสดงว่าทุกอย่างกำลังพอดีค่ะ

✅ การใช้สกินแคร์ที่มีความเข้มข้นสูงสูง ในช่วงแรกมักจะรู้สึกดี เพราะจะทำให้เรารู้สึกว่าหน้าเราเนียนใสเร็ว รอยสิวจางลงเร็ว
แต่ถ้าเราใช้ไปนานนาน แล้วไม่คอยสังเกตผิวตัวเอง. เดี๋ยวผิวมันจะบางเกินไปเพราะผิวมันสร้างใหม่ไม่ทัน ผิวอาจจะเรียบเนียน แต่กระฝ้าจะมาแทนค้าบ

✅ อีกเทคนิคหนึ่งที่พี่โจ๋ใช้คือใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ ceramide
ที่ช่วยเสริมชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้าง barrier ผิวให้แข็งแรง
ให้ผิวใหม่สร้างเร็วขึ้น เมื่อเกราะป้องกันผิวเราดี ผิวเราจะไม่แพ้ง่าย

🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸🔸

ถ้าเข้าใจหลักในการใช้อย่างถูกต้องผิวเราจะดีอย่างสม่ำเสมอไปเรื่อยๆ
เงาสวยเป็น glass skin

และการที่จะเพิ่มสกินแคร์ลงไปใน routine ของเรา เราต้องรู้ว่าตัวไหนคุณสมบัติใกล้เคียงกันที่ทดแทนกันได้
ถ้าจะเพิ่มตัวนี้อาจจะต้องลดตัวที่มีคุณสมบัติซ้ำกัน ประมาณนี้ค่ะ

ที่สำคัญการให้ความชุ่มชื่นกับผิวอย่างเพียงพอและทากันแดดทุกวันอย่างถูกวิธีสำคัญมากที่สุดนะค้าา

ปีที่ 3 แล้ว ผิวเราจะปังไปด้วยกันฮะ!! เยิฟๆ

ป้าโจ๋